เทรนด์การท่องเที่ยวช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา กลุ่มคนรุ่นใหม่ (Generation Y) หลายๆคนเริ่มนิยมที่จะเที่ยวแบบวางแผนทริป หาประสบการณ์ด้วยตัวเอง โดยที่ไม่ได้มีการใช้บริการแบบกรุ๊ปทัวร์ แต่เป็นการวางแผนหาข้อมูลผ่านการใช้เทคโนโลยีด้วยตัวเอง ผ่านการค้นหาข้อมูลผ่าน google อ่านรีวิวจาก Pantip อ่านข้อมูลที่เพื่อนแชร์จาก Facebook ซึ่งทำให้ทริปการท่องเที่ยวของเขามีความอิสระ และสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ในทางกลับกันสำหรับธุรกิจที่พักก็มีจำนวนมากขึ้นและมีความหลากหลาย ทั้งในราคาและรูปแบบที่พัก เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของนักท่องเที่ยวรุ่นใหม่
แต่สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการประหยัดค่าที่พัก ธุรกิจที่พักประเภท Hostel (โฮสเทล) ก็เป็นที่พักที่ตอบโจทย์ความต้องการสำหรับคนที่อยากจะพักในราคาแบบไม่แพง แต่ Hostel ก็อาจจะโดนแทนที่ด้วยธุรกิจที่พักแนวใหม่อย่าง Poshtel ที่อาจจะมาเอื้อความสะดวกสบายให้ได้มากกว่า
สำหรับ Hostel คือ ที่พักในรูปแบบราคาประหยัด ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานทั่วไปให้แก่ผู้ที่เข้ามาพักบริการ เช่น ที่นอน หมอน ผ้าห่ม ห้องอาบน้ำ ตู้เก็บของ เป็นต้น ซึ่งรูปแบบของการเข้าพัก จะไม่มีพนักงานมาคอยบริการเหมือนกับการอยู่โรงแรม แต่จะเน้นให้ผู้เข้าพักจะต้องบริการตัวเอง ซึ่งการเข้าพักก็อาจจะไม่ได้พักแบบคนเดียว จะต้องมีการแชร์ร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นห้องน้ำ หรือ ห้องนอน
ส่วน Poshtel จะเป็นลักษณะคล้ายกับ Hostel แต่จะมีความเหนือระดับมากกว่าและมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันมากกว่า จริงๆคำว่า Poshtel มาจากการผสมคำระหว่าง Posh (หรูหรามีระดับ) และ Hostel (โฮสเทล) เพื่อความเข้าใจง่าย ก็คือเป็นโฮสเทลในรูปแบบพรีเมี่ยมนั่นเอง
สำหรับต้นกำเนิดของ Poshtel มีจุดเริ่มต้นอยู่ที่โซนประเทศยุโรป แต่ในปัจุบัน Poshtel เป็นที่รู้จักในเมืองท่องเที่ยวต่างๆทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นแถวทวีปยุโรป แสกนดิเนเวีย และสหรัฐอเมริกา ซึ่งในช่วงปีหลัง 2020 ก็มีการคาดการณ์กันว่าธุรกิจ Poshtel ก็จะเติบโตมากขึ้นไปอีก มาดูกันว่าอะไรคือข้อแตกต่างที่ทำให้ Poshtel ได้รับความนิยมมากกว่า Hostel
ราคาที่เอื้อมถึง
ในรูปแบบการคิดราคาของ Hostel จะเป็นแบบที่ราคาถูกกว่า เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของนักท่องเที่ยว ดังนั้นการคิดราคาของ Hostel ส่วนมากก็จะคิดในลักษณะราคาเป็นเตียงต่อคืน แต่ Poshtel จะเป็นราคาที่สูงกว่า Hostel เพราะในแง่ของการพัก ก็จะได้รับความสะดวกสบายที่มากกว่า Hostel
สิ่งอำนวยความสะดวก
สำหรับ Poshtel จะมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากกว่า Hostel ทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นการจัดสรรพื้นที่ส่วนกลางอย่างเป็นระเบียบ มีสัญญาณอินเตอร์เน็ต wifi ที่ครอบคลุมทุกพื้นที่ มีพื้นที่ให้สำหรับพบปะพูดคุย และทำกิจกรรมร่วมกันกับเพื่อนใหม่ บางแห่งก็มีสระว่ายน้ำ ห้องสมุดให้ยืมหนังสือ มีบาร์ เกมส์ โต๊ะพูล คาเฟ่ ที่ยังคงรูปแบบการสร้างปฏิสัมพันธ์ของนักท่องเที่ยวให้สามารถพบปะ หรือทำกิจกรรมร่วมกับคนอื่นได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งแตกต่างจาก Hostel ธรรมดาๆ ที่อาจจะมีสิ่งอำนวยความสะดวกเพียงขั้นพื้นฐานเท่านั้น นอกจากสิ่งอำนวยความสะดวกภายในที่พักแล้ว ทำเลก็เป็นเงื่อนไขที่นักท่องเที่ยวมันจะมองหาเป็นอันดับแรก ที่พักจะต้องมีการตั้งอยู่ในทำเลที่ดี ใกล้กับระบบขนส่งสาธารณะ ทำให้พวกเขาเดินทางไปไหน ก็เดินทางไปได้สะดวก
(รูปภาพจาก OON Poshtel Facebook)
ความเป็นส่วนตัวที่รู้สึกปลอดภัยกว่า
สำหรับห้องพักใน Hostel ค่อนข้างจะมีรูปแบบจำกัด ต้องมีการพักรวมกับคนอื่นๆภายในห้องเดียวกัน บางครั้งอาจจะต้องเจอปัญหาเสียงดัง จากเพื่อนร่วมห้อง ทำให้การนอนหลับอาจจะไม่สามารถนอนหลับพักผ่อนได้เต็มที่ ซึ่งแตกต่างจาก Poshtel ที่มีห้องพักรูปแบบหลากหลายมากกว่า มีห้องนอนเดี่ยวที่เพิ่มออกมาจากห้องนอนรวม ทำให้คนที่มาคนเดียว อาจจะเกิดความรู้สึกสบายใจและปลอดภัยในการเข้าพัก แต่นอกเหนือจากการเข้าพักแบบห้องเดี่ยวแล้ว ในส่วนของแบบห้องนอนรวม Poshtel ก็ยังมีการจัดพื้นที่ส่วนตัวขนาดเล็กๆไว้ให้แต่ละคน ไม่ว่าจะเป็นการแบ่งพื้นที่เตียงเป็นสัดส่วน รวมถึงมีอุปกรณ์เสริมต่างๆให้เราได้ใช้เพิ่มเติมเช่น มีโคมไฟให้แต่ละคนบนหัวเตียง มีเสียบปลั๊ก มีไม้แขวนเสื้อ เป็นต้น
การตกแต่งด้วยสไตล์ที่โดดเด่น
ในส่วนการตกแต่งของ Poshtel จะโดดเด่นกว่า Hostel อย่างชัดเจน เน้นการตกแต่งอย่างมีสไตล์ มีความสวยงามที่สะดุดตามากกว่า และมีการใส่ใจรายละเอียดที่มากกว่า อีกทั้งบางที่พักยังมีวิว และทิวทัศน์สวยงามให้ผู้ที่เข้าพักสามารถมองเห็นได้จากที่พักอีกด้วย ซึ่งแตกต่างจาก Hostel ที่อาจจะไม่ได้เน้นความสวยงามมากขนาดเท่ากับ Poshtel อาจจะมีเพียงแค่ที่นอนก็เพียงพอแล้ว
สำหรับ Poshtel ในประเทศไทยก็ค่อนข้างเริ่มกระจาย มีอยู่ในหลายๆที่ ในหัวเมืองใหญ่ๆทั้งในกรุงเทพฯ และตามต่างจังหวัด เช่น The Quarter Bangkok กรุงเทพฯ เป็นที่พักที่ใกล้กับรถไฟฟ้า BTS สถานีราชเทวี นอกจากมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันแล้ว ยังมีCo-Working Space อีกด้วย หรือที่ OON Poshtel จังหวัดเชียงใหม่ ก็จะเป็นการตกแต่งโดดเด่นด้วยสไตล์แบบมินิมอล ที่มีการออกแบบมาอย่างดีแล้ว ยังมีร้านคาเฟ่ อยู่ในภายในที่พี่พักอีกด้วย
(รูปภาพจาก The Quarter Bangkok Facebook)
จากที่กล่าวมาแล้วเชื่อได้เลยว่า Poshtel จะเป็นที่รู้จักเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม เพราะด้วยรูปแบบของ Poshtel ที่สามารถตอบโจทย์ให้กับนักท่องเที่ยวที่เลือกเดินทางด้วยตัวเองมากขึ้น ทั้งในเรื่องรูปแบบที่ปรับความต้องการของผู้บริโภค รู้ว่าผู้บริโภคชอบอะไร ไม่ชอบอะไร เอาข้อดีของโรงแรมมาอุดช่องว่างที่เป็นข้อเสียของ Hostel แล้วนำเสนอสิ่งที่ดีกว่าเดิม แม้จะเป็นราคาที่แพงกว่าแต่ก็เป็นราคาที่ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงได้ ซึ่งจะช่วยกระตุ้นทำให้ผู้บริโภคอยากจะลองเข้ามาเปิดประสบการณ์รูปแบบใหม่นี้ให้มากขึ้นกว่าเดิม