ในปีที่ผ่านมาโลกต้องเผชิญหน้ากับวิกฤตมากมาย ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่าหนึ่งในนั้นเป็นผลพวงจากเหตุการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ที่ทำให้เกิดผลกระทบในวงกว้าง และมีแนวโน้มว่าจะส่งผลกระทบอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในส่วนของภาคธุรกิจที่ผู้ประกอบการได้รับผลกระทบไปเต็มๆ ส่งผลให้พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เจ้าของธุรกิจจึงควรศึกษาและรู้ทัน
เทรนด์พฤติกรรมผู้บริโภคออนไลน์ เพื่อปรับตัวให้สอดคล้องกับความต้องการและสามารถอยู่รอดในปี 2021
หากมองให้ลึกไปถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคในช่วงที่ผ่านมา จะพบว่าได้เปลี่ยนแปลงไปตามเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในสังคมจนเกิดเป็นชีวิตวิถีใหม่ หรือ New Normal ที่เราคุ้นเคยกันดี เช่น เดินทางน้อยลง ทำงานจากที่บ้าน (Work from Home) ประชุมออนไลน์ แล้วหันมาใช้สื่อออนไลน์มากขึ้น เช่น ซื้อของออนไลน์ สั่งอาหารออนไลน์ ดูคอนเสิร์ตออนไลน์ เรียกได้ว่าทุกอย่างในชีวิตประจำวันเกี่ยวข้องกับสื่อออนไลน์ทั้งสิ้น ด้วยเหตุนี้เองธุรกิจจึงต้องปรับตัวและเริ่มศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคออนไลน์ยุคใหม่ เพื่อนำข้อมูลเชิงลึกเหล่านี้มาปรับสินค้าและบริการให้ตอบโจทย์ผู้บริโภคอย่างแท้จริง ซึ่งปัจจุบันได้เกิดเทรนด์ผู้บริโภค ดังนี้
1. เน้นความเรียบง่าย ที่ดีต่อใจ คนยุคใหม่มักมีพฤติกรรมที่จริงจังกับการทำงาน ทุ่มเทเวลาให้แก่งานทำให้ชีวิตเต็มไปด้วยความเร่งรีบ และความกดดันจากสังคม เศรษฐกิจ ครอบครัว ที่ทำงาน จนเกิดความเหนื่อยล้าสะสม หรือบางคนอาจอยู่ในภาวะหมดไฟในการทำงาน (Burnout Syndrome) ทำให้พฤติกรรมผู้บริโภคออนไลน์กลุ่มนี้ต้องการมองหาบริการ หรือสินค้าที่จะพาพวกเขาหลุดพ้นจากปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น สร้างสมดุลในการใช้ชีวิต และที่สำคัญต้องช่วยให้การใช้ชีวิตง่ายขึ้น
สิ่งที่ธุรกิจต้องปรับ จากพฤติกรรมผู้บริโภคออนไลน์จะเห็นว่าคนกลุ่มนี้แทบไม่มีเวลาเป็นของตัวเองเลย เพื่อให้สามารถสร้างบริการที่ถูกใจ ธุรกิจจะต้องเน้นความเรียบง่าย (Less is more) มากที่สุด ไม่ควรมีตัวเลือกที่ทำให้ตัดสินใจยาก เช่น เว็บไซต์ขายของออนไลน์ไม่ควรมีสินค้าให้เลือกมากเกินไป เพราะนอกจากจะไม่สามารถดึงดูดใจคนกลุ่มนี้ได้แล้ว ยังทำให้ร้านไม่มีจุดเด่นอีกด้วย
นอกจากนี้ธุรกิจยังต้องให้ความสำคัญกับการจัดดิสเพลย์ โดยเน้นสินค้าแค่บางรายการที่ดึงดูดจริงๆ เสมือนเป็นการตัดสินใจให้แก่คนกลุ่มนี้ในระดับหนึ่ง อีกทั้งเว็บไซต์จะต้องมีความเรียบง่าย ไม่ซับซ้อน เพียงเท่านี้ธุรกิจก็สามารถตามเทรนด์ผู้บริโภคได้แล้ว เพราะท้ายที่สุดแล้วพวกเขาไม่ได้สนใจว่าสินค้าจะราคาถูกหรือแพง แต่สนใจว่าสินค้าของคุณตอบโจทย์แค่ไหนต่างหาก
2. เน้นสร้างตลาดตอบโจทย์ความต้องการตนเอง ผู้บริโภคออนไลน์กลุ่มนี้มักเป็นกลุ่มคนที่มีความแตกต่างทางด้านกายภาพ พฤติกรรม ส่งผลให้มีความต้องการบางอย่างแตกต่างจากผู้บริโภคกลุ่มอื่น ซึ่งสินค้าที่มีอยู่ในตลาดอาจไม่ตอบโจทย์ความต้องการ หรือไม่สามารถเข้าถึงสินค้าได้เพราะข้อจำกัดด้านต่างๆ เช่น สภาพเศรษฐกิจที่ผันผวน ต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น ราคาสูงเข้าถึงยาก ทำให้คนกลุ่มนี้มองเห็นช่องว่างของตลาดและไม่ต้องการรอ จึงสร้างตลาดขึ้นมาเองและสนับสนุนซึ่งกันและกัน เช่น การขายสินค้าสำหรับผู้ที่บกพร่องทางร่างกาย กลุ่มผู้สูงอายุ กลุ่มคนที่แตกต่างด้านเชื้อชาติ อาจเป็นในรูปแบบการสร้างเพจ Facebook หรือ Line OpenChat เพื่อเป็นตลาดขายของสำหรับกลุ่มคนที่มีความสนใจคล้ายกัน
สิ่งที่ธุรกิจต้องปรับ เมื่อธุรกิจได้เห็นเทรนด์ผู้บริโภคแล้วจะต้องปรับวิธีนำเสนอบริการแนวใหม่ๆ อย่างบริการทางเลือกเพื่อให้ผู้บริโภคมีตัวเลือกที่ตรงใจมากขึ้น เช่น ธุรกิจเป็นตัวกลางเปิดตลาดแลกเปลี่ยนสินค้าระหว่างกลุ่มผู้บริโภค เพื่อนำสินค้าเหล่านั้นไปสร้างประโยชน์แก่กลุ่มคนใหม่ๆ ซึ่งวิธีนี้เป็นข้อดีสำหรับผู้บริโภคและยังสามารถสร้างรายได้เพิ่มให้แก่ธุรกิจอีกด้วย นอกจากนี้ธุรกิจยังต้องศึกษาพฤติกรรมของผู้บริโภคออนไลน์ ความชอบ ความสนใจและไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างของคนแต่ละเจนเนอเรชัน เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ช่วยให้ธุรกิจออกแบบสินค้าและบริการได้ตรงตามความต้องการมากขึ้น
3. เน้นความเห็นอกเห็นใจ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั่วโลกในปีที่ผ่านมา จะเห็นว่าการประท้วงในบางประเทศ สร้างความเสียหายแก่เศรษฐกิจอย่างรุนแรง เช่น ปัญหาเรื่องชนชั้นในสังคม ความเหลื่อมล้ำ ไม่ว่าจะเรื่องของสีผิว เพศ หรือเชื้อชาติ ส่งผลให้เกิดความคิดเห็นที่แตกต่าง ความรุนแรงเกิดขึ้นในสังคม นำไปสู่คนกลุ่มหนึ่งที่ต้องการประนีประนอม มีความฉลาดทางอารมณ์ ตลอดจนต้องการเห็นความเท่าเทียมในสังคม จึงเกิดพฤติกรรมผู้บริโภคออนไลน์ที่มีความรู้สึกเห็นอกเห็นใจ คำนึงถึงคนทุกกลุ่ม ไม่แบ่งแยกความสำคัญของคนกลุ่มใดมากกว่ากัน ผู้บริโภคกลุ่มนี้จึงเป็นกลุ่มที่น่าจับตามองเป็นอย่างมาก
สิ่งที่ธุรกิจต้องปรับ ด้วยความที่พฤติกรรมผู้บริโภคออนไลน์กลุ่มนี้มักมีความเห็นอกเห็นใจ มีความเป็นกลาง และรักความถูกต้อง หากอยากมัดใจกลุ่มคนที่มีจุดยืนเหล่านี้จะต้องแสดงให้เห็นว่าธุรกิจมีความโปร่งใส ให้ความสำคัญกับความเท่าเทียมทุกประเด็นในสังคม หรือปรับกลยุทธ์การตลาดที่มีความรับผิดชอบต่อสังคม เช่น การเลือกใช้วัสดุจากชาวบ้านในชุมชนเพื่อส่งเสริมชาวบ้านให้มีรายได้ และสามารถเติบโตไปพร้อมกับธุรกิจ อีกนัยหนึ่งเสมือนเป็นการให้ความสำคัญกับ ‘คุณค่า’ มากกว่า ‘มูลค่า’ หรือการทำ CSR อย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกในสังคมได้อย่างแท้จริง และในอีกทางหนึ่งก็เป็นการยกระดับธุรกิจไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน เรียกง่ายๆ ว่าต้องหลอมรวมประเด็นทางจริยธรรมเข้ากับการลงทุนนั่นเอง
4. เน้นให้ความสำคัญกับข้อมูล ทุกวันนี้ปฏิเสธไม่ได้ว่าคนหันมาใช้แท็บเล็ต สมาร์ทโฟนในชีวิตประจำวันมากขึ้น และแน่นอนว่าย่อมไม่พลาดการใช้สื่อออนไลน์แพลตฟอร์มต่างๆ แต่รู้หรือไม่ว่าในการใช้แพลตฟอร์มต่างๆ แต่ละครั้งจะมีการเก็บข้อมูลของอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลส่วนตัว พฤติกรรมการเล่น จนบางครั้งกลายเป็นการรุกล้ำความเป็นส่วนตัวของผู้บริโภค ดังนั้นจึงมีคนบางกลุ่มตระหนักถึงความเป็นส่วนตัว ความปลอดภัยในการให้ข้อมูล โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ที่มี digital footprint ทิ้งไว้บนโลกออนไลน์มากมาย ทั้งโดยรู้ตัวหรือไม่รู้ตัวก็ตาม หากธุรกิจใดที่ทำข้อมูลหลุดจะทำให้คนกลุ่มนี้ไม่เชื่อใจ ไม่ซื้อสินค้า และพร้อมจะแบนแบรนด์ที่ไม่แสดงความโปร่งใสในทันที ไม่ว่าผลิตภัณฑ์นั้นๆ จะการันตีว่าดีแค่ไหนก็ตาม
สิ่งที่ธุรกิจต้องปรับ เมื่อเทรนด์ผู้บริโภคออนไลน์ในโลกยุคนี้ต้องการความจริงใจ เปิดเผย และตรวจสอบได้ ธุรกิจจึงต้องปรับเรื่องการเก็บข้อมูลผู้บริโภค โดยการเพิ่มความโปร่งใส มีการแจ้งให้ทราบก่อนที่จะเก็บข้อมูล และต้องให้ความสำคัญเรื่องความปลอดภัยของข้อมูลมากขึ้น โดยเฉพาะธุรกิจที่มีการจ้างเหล่า Influencer ยิ่งต้องให้ความสำคัญในการให้ข้อมูล ต้องเป็นข้อมูลที่ถูกต้องและไม่หลอกลวงผู้บริโภค เพื่อให้ผู้บริโภคเกิดความเชื่อใจในผลิตภัณฑ์ของเรา
ทริคเด็ดที่ช่วยปรับให้ธุรกิจเป๊ะ
- ปรับเว็บธุรกิจให้ตรงความต้องการ ปัจจุบันหลายธุรกิจมักมีเว็บไซต์เป็นของตัวเอง เพราะนอกจากจะเป็นการประชาสัมพันธ์ธุรกิจแล้ว ยังทำให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้น และเพื่อเกิดความพึงพอใจมากที่สุดจะต้องเสริมเรื่อง User Experience หรือให้ความสำคัญในการออกแบบเว็บไซต์ให้ใช้งานง่าย สามารถดูรายละเอียดผลิตภัณฑ์ได้สะดวกขึ้น พร้อมทั้งมีดีไซน์สวยสะดุดตาก็จะทำให้ผู้บริโภคเกิดความประทับใจ
- การทำการตลาดออนไลน์ หากธุรกิจรู้ทันพฤติกรรมผู้บริโภคออนไลน์แล้ว อย่าลืมนำข้อมูลเหล่านั้นไปปรับใช้ในการทำการตลาดออนไลน์ด้วย เพราะเป็นการเสริมให้ธุรกิจแข็งแกร่งมากขึ้น อีกทั้งยังสามารถเข้าถึงผู้บริโภคกลุ่มใหม่ๆ นอกจากนี้หากใส่ไอเดียที่แตกต่างเข้าไปจะยิ่งดึงดูดผู้บริโภคได้มากขึ้น และสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้ คือ อินเทอร์เน็ต NT ที่จะช่วยให้ทำการตลาดออนไลน์ราบรื่น ด้วยสัญญาณที่เร็วแรง คุ้มค่า เหมาะสำหรับธุรกิจคุณอย่างแน่นอน สามารถสอบถามบริการเพิ่มเติมที่ https://bit.ly/3kOTA4q
ทั้งหมดนี้ก็เป็น 4 เทรนด์ผู้บริโภคออนไลน์ที่เกิดขึ้น จะเห็นได้ว่าค่อนข้างมีความแตกต่างในเรื่องของความต้องการ ดังนั้นเจ้าของธุรกิจจะต้องลองพิจารณาดูให้ดีว่า ธุรกิจของเราเหมาะกับลูกค้ากลุ่มใด เพื่อที่จะได้ปรับสินค้า บริการให้ถูกใจลูกค้า พร้อมเสริมพลังให้ธุรกิจเดินหน้าต่อไปในปี 2021