ทีโอที นำคณะสื่อมวลชนเยี่ยมชมการดำเนินโครงการเน็ตชายขอบ ของ กสทช. โดยสามารถลดความซ้ำซ้อนกับโครงการเน็ตประชารัฐ
ทีโอที นำคณะสื่อมวลชนเยี่ยมชมการดำเนินโครงการเน็ตชายขอบ ของ กสทช. โดยสามารถลดความซ้ำซ้อนกับโครงการเน็ตประชารัฐ และใช้เงินของประเทศอย่างคุ้มค่า
วันที่ 29-30 มิถุนายน 2561 ณ จังหวัดชัยภูมิ นาวาอากาศเอก สมศักดิ์ ขาวสุวรรณ์ รองปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และประธานกรรมการบริหาร บมจ.ทีโอที และนายมนต์ชัย
หนูสง กรรมการผู้จัดการใหญ่ พร้อมผู้บริหารระดับสูง บมจ.ทีโอที นำคณะสื่อมวลชนเยี่ยมชมการดำเนินงานโครงการจัดให้มีสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ และบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในพื้นที่ชายขอบ หมู่บ้านในพื้นที่ชายขอบ (Zone C+) ของสำนักงาน กสทช. วงเงินรวม 6,486,399,926 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ประกอบด้วย สัญญากลุ่มที่ 1 ภาคเหนือ 1 การจัดให้มีสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ (Mobile Service) ) สัญญากลุ่มที่ 2 ภาคเหนือ 2 การจัดให้มีบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง (Broadband Internet Service) และสัญญากลุ่มที่ 3 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การจัดให้มีบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง (Broadband Internet Service)
นาวาอากาศเอก สมศักดิ์ ขาวสุวรรณ์ รองปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และประธานกรรมการบริหาร บมจ.ทีโอที กล่าวว่า โครงการเน็ตชายขอบ มีระยะเวลาสัญญา 6 ปี โดย ทีโอที ได้ดำเนินโครงการฯ ตาม TOR ที่มิให้การลงทุนโครงข่ายเน็ตชายขอบเกิดความซ้ำซ้อนกับโครงการเน็ตประชารัฐ และรวมถึงโอเปอร์เตอร์ที่ชนะการประกวดราคา จะต้องทำการสำรวจสภาพพื้นที่และจุดติดตั้งก่อนดำเนินการติดตั้งอุปกรณ์ พร้อมเสนอให้ กสทช.พิจารณาตรวจสอบความถูกต้อง ครบถ้วนก่อนดำเนินการตามหลักสถาปัตยกรรมและภูมิประเทศ อย่างไรก็ตาม โครงการเน็ตชายขอบ
ได้มีการออกแบบ/กำหนดจุดติดตั้งก่อนที่ โครงการเน็ตประชารัฐซึ่ง ทีโอที ได้ดำเนินการแทนกระทรวงดิจิทัลฯ จะแล้วเสร็จ ดังนั้น ทีโอที จึงได้จัดเจ้าหน้าที่ช่างซึ่งมีความชำนาญในพื้นที่และมีเชี่ยวชาญในการติดตั้งโครงการ เน็ตประชารัฐ เข้าสำรวจสภาพพื้นที่และจุดติดตั้ง ซึ่งพบว่าพื้นที่บางส่วนของจุดติดตั้งอุปกรณ์ OLT ตามโครงการเน็ตชายชอบมีความซ้ำซ้อนกับเน็ตประชารัฐ รวมถึงบางพื้นที่มีความไม่เหมาะสมของสถาปัตยกรรมการ
ออกแบบและภูมิประเทศ ทีโอที จึงได้ออกแบบโครงข่ายใหม่และนำเสนอให้ กสทช.พิจารณาตรวจสอบความถูกต้อง ครบถ้วน เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2560 โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของ กสทช.
นายมนต์ชัย หนูสง กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ทีโอที กล่าวว่า จากการออกแบบโครงข่ายใหม่ดังกล่าว จะทำให้การลงทุนโครงข่ายเน็ตชายขอบไม่มีความซ้ำซ้อนกับโครงข่ายเน็ตประชารัฐ ตามที่ กสทช.ได้กำหนดให้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล โดยสามารถลดจำนวน OLT ของโครงการฯ ลงจำนวน 150 จุดจากจำนวน 445 จุด คงเหลือการติดตั้งจำนวน 295 จุด คิดเป็นลดลงร้อยละ 33.7 โดยยังคงให้บริการครอบคลุม ครบทั้ง 2,745 หมู่บ้านตามที่ระบุไว้ในสัญญา และมีคุณภาพการให้บริการตามมาตรฐานที่กำหนด รวมถึงทำให้สามารถลดจำนวนอุปกรณ์และค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง อาทิ เคเบิลใยแก้วนำแสง ค่าติดตั้ง และค่าบำรุงรักษาในระยะยาว ฯลฯ นอกจากนี้ ส่งผลให้ กสทช.สามารถประหยัดงบประมาณโดยลดวงเงินลงทุนในภาพรวมของโครงการฯ กว่า 280 ล้านบาท ซึ่งเป็นการใช้เงินลงทุนของประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ ในการดำเนินงานตามโครงการเน็ตชายขอบ ทีโอที ได้ก่อสร้างอาคารศูนย์ USO ที่ ต.หนองสังข์ อ.แก้งคร้อ จังหวัดชัยภูมิ ซึ่งจะเป็นอาคารต้นแบบในการที่จะดำเนินการอีกจำนวน 390 แห่ง โดย ทีโอที จะสามารถส่งมอบโครงการเน็ตชายขอบได้ตามที่กำหนดทั้ง 3 สัญญา ดังนี้
-วันที่ 28 ก.ย.60 – 28 ก.ย.2561 ดำเนินการติดตั้งอุปกรณ์ตามโครงการฯ
-วันที่ 1 ต.ค.2561-30 ก.ย.2566 ดำเนินการให้บริการ Wi-Fi และบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ พร้อมการบำรุงรักษาอุปกรณ์ แก้ไขเหตุเสียให้คืนดี
-วันที่ 1ต.ค.-29 พ.ย.2566 ดำเนินการส่งมอบทรัพย์สินให้ กสทช.